Sand castle, and all of my memory…
Posted on Sunday, August 19th, 2007 at 6:05 amปราสาททราย
– สุรสีห์ อิทธิกุล
กว่าจะรวมจิตใจ เก็บทรายสวยๆ มากอง ก่อปราสาทสักหลัง
ก่อกำแพงประตู ก่อสะพานสร้างเป็นทาง ทำให้เป็นดังฝัน
ก่อนที่ฉันจะได้เห็นทุกอย่าง อย่างที่ฝันที่ฉันทุ่มเท
น้ำทะเลก็สาดเข้ามา ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา
เหลือเพียงทรายที่ว่างเปล่า กับน้ำทะเลเท่านั้น
ไม่เหลืออะไรเลย จากที่เคยมีความใฝ่ฝัน
ไร้กำลังจะสร้างใหม่ให้เหมือนเดิม
ทีละเล็กละน้อย ที่คอยสะสมความดี มีให้เธอเท่านั้น
ก่อเป็นความเข้าใจ แต่งเติมความหมายด้วยกัน
คอยถึงวันที่หวัง ก่อนที่ฉันจะได้พบความสุข อย่างที่ฉันฝันไว้ทุกวัน
เธอก็พลันมาจากฉันไป ไม่เหลืออะไรเลย
(ไม่เหลืออะไรเลย) แหลกสลายลงไปกับตา
เหลือเพียงใจที่ว่างเปล่า กับฉันคนเดียวเท่านั้น
จะเอาแรงพลังจากไหนไว้เติมแต่งฝัน
จะเอาวันและคืนจากไหนให้พอทำใจ ไม่เหลืออะไรเลย
จากที่เคยมีความใฝ่ฝัน ไร้กำลังจะสร้างใหม่ให้เหมือนเดิม
จะเอาแรงพลังจากไหน ไว้เติมแต่งฝัน
จะเอาวันและคืนจากไหน ให้พอทำใจ ไม่เหลืออะไรเลย
อารายกันพี่…
อารายจะเหงา และหมดหวังขนาดนี้ T_T
pตราบใดที่กรุงโรมยังสร้างไม่เสร็จในวันเดียว
ความรัก…ของคนสองคน
ก็ยังสามารถเยียวยาได้นี่คะ:D
พยายามและสู้เพื่อหัวใจของตัวเองนะคะ
ความเหงาในวันนี้…ถือว่าเป็นเซรุ่มหรือวัคซีน
เวลาให้ได้คิดทบทวนความรักที่ผันผ่าน…
ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน
ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
ขนาดออกแบบไว้..ก็ยังมีความคลาดเคลื่อนประกบอยู่เลย …หากแม้นใจยังไม่สิ้นหวัง ไม่สิ้นกำลังใจ
ทรายที่สลายไปกะน้ำทะเล ก็สร้างขึ้นมาใหม่สิคะ
แต่ว่าครานี้ลองเป็นสถาปนิกก่อปราสาททรายอีกรอบ
ความรักที่ผ่านมาก็เหมือนงานวิจัยชิ้นหนึ่ง
แต่มันอาจจะเป็นวิจัยชีวิต และก็ชีวิตแห่งรักด้วย
ที่ผ่านมายังไม่ผ่านบทที่3 ล่ะกัน
แต่ว่า…แค่กองทรายสลายใช่ว่าเราต้องกลับไปทำเค้าโครงใหม่นี่คะ
ลองใช้กลุ่มตัวอย่างที่เจาะจงใหม่อีกหน ก็ได้น๊า
แห่ะๆ:D (ชักมั่วแล้วแฮะ)
อืมมม…แค่เหงามันไม่ตายนี่นา
เหงาบ้าง..จะได้เล็งเห็นชีวิตรักกว้างขึ้นมาเท่านั้นเอง
ให้กำลังใจพบรักใหม่เร็วไวนะคะพี่
สู้สู้ค่ะ 😀
กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
เหงาเศร้าเป็นปกติ เอิ๊กๆๆ