Archive for the Review Category

ใช้แอพอะไรบน WP8

Posted on Friday, April 4th, 2014 at 9:27 am

เมื่อวานไปกินข้าวกับ @markpeak และ @TonsTweetings ช่วงหนึ่งของการสนทนา ก็คุยกันถึง Windows Phone ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ถ้าให้ตอบสั้น ๆ ก็คือ WP ก็ยังเป็นมือถือโลกที่สาม ที่มีลำดับความสำคัญน้อยมากในหมู่นักพัฒนาแอพ แอพจำนวนหนึ่งที่มีก็มีแบบให้รู้ว่ามีนะ แต่คุณภาพก็งั้น ๆ

ก่อนที่จะไปตอบยาว ๆ ควรจะบอกก่อนว่า ผมใช้บริการของ Google หลายอัน เช่น GMail ทั้งเมลส่วนตัวและเมลของที่ทำงาน รวมถึง GCal, GTalk และ G+ ด้วย ซึ่งในสมัยที่ใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์ ชีวิตก็มีความสุขดี แต่พอเปลี่ยนมาใช้  WP ชีวิตก็ลำบากทันที ลองมาไล่ดูนะครับ

 

  • EMail: Mail บน WP ห่วยมาก แม้แต่ว่าจะใช้กับ Hotmail เพราะว่าแทบไม่มีความสามารถอะไรเลย เช่น เรียงเมลตามผู้ส่งหรือวันที่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งถ้าใช้ GMail ด้วยแล้ว จะลำบากมาก เพราะต้องย้อนไปใช้ IMAP หรือ POP ในการดึงเมล ทำให้ใช้ความสามารถของ GMail  ไม่ได้เต็มที่ ทางแก้ก็ ไปซื้อแอพ 3rd party มาใช้ ตัวที่ใช้อยู่คือ MetroMail ซึ่งเป็นแอพสำหรับ GMail โดยเฉพาะ สนับสนุนความสามารถของ GMail เช่น Label, Star หรือ Archive เป็นต้น แต่…… ก็ยังไม่มี Sort เหมือนเดิม แต่โดยรวม ก็ถือว่าคุ้มดีครับ
  • Calendar: Mail บน WP ว่าห่วยแล้ว Calendar บน WP ยิ่งห่วยกว่า อะไรคือ Calendar ที่ไม่มี Week View วะครับ แถม Month View ก็พยายามแสดงรายการโดยตัวหนังสือ แต่มันก็เล็กมาก จนอ่านไม่ออก แถมพอวันไหนมีงานเยอะ มันก็ไม่แสดงงานทั้งหมด ส่วน Day View ก็ใช้ยาก เพราะหนึ่งหน้าแสดงได้แค่หกชั่วโมง ซึ่งก็คือแค่ครึ่งเช้าหรือบ่าย ถ้าจะดูทั้งวัน ก็ต้องถูขึ้นถูลง และยิ่งถ้าจะเช็คว่า วันไหนว่างบ้าง เพื่อจะนัดวัน เนื่องจากไม่มี Week View ก็ต้องถูขึ้นถูลง เพื่อดูว่าวันไหนว่าง สรุปว่า ใช้งานแทบไม่ได้ ตัวที่ใช้อยู่ ก็ซื้อมาอีกแล้ว ชื่อ Cal เฉย ๆ มีครบทั้ง Month, Week, Day, Agenda View และแต่ละวิว ก็ใช้งานได้จริง เช่น Month View ก็แยกเป็นสองส่วน ส่วนบน เป็นปฏิทินทั้งเดือน ที่มีจุดสีในแต่ละวัน เพื่อแสดงว่า วันนั้นมีนัดหมายหรือไม่ ซึ่งถ้ากดที่วัน ด้านล่าง ก็จะแสดงรายการนัดหมายในวันนั้น ซึ่งใช้งานได้จริงกว่าการพยายามยัดข้อมูลทั้งหมดใส่ลงไปในปฏิทิน Week View ก็แสดงแบบ Agenda (แสดงเพราะรายการนัดหมาย) ทำให้หน้ามันไม่ยาวเกินไป สรุปว่า ใช้งานได้จริง และประทับใจครับ ข้อเสียมีอยู่แค่ว่า บางทีก็มีกระตุกบ้าง แต่เดี๋ยวคงดีขึ้น
  • Social Networks: ผมเลิกใช้ FB ไปแล้ว และลดเล่น Twitter ไปเยอะ แต่ยังใช้ G+ อยู่ ซึ่ง WP ไม่มี Native Client ของ G+ แต่โชคดีที่ IE บน WP ค่อนข้างโอเค ก็เลยเล่น G+ บน WP ได้แบบถูไถ ที่บอกว่าถูไถ เพราะมันเป็น mobile app ที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ เช่น จะอัพรูปก็ทำไม่ได้ครับ เพราะ IE ไม่สนับสนุนการเปิดไฟล์ในเครื่อง ต้องใช้วิธีส่งรูปขึ้น OneDrive แล้วไปแชร์ลิงค์จาก OneDrive เอา ซึ่งก็พอถูไถไปได้
  • Instant Messaging: แน่นอน ไม่มี GTalk Client แต่มี 3rd party ที่พอใช้ได้คือ Gchat ก็ถูไถใช้ไป ส่วน ตัวอื่นเช่น Line หรือ WhatsApp ก็มีแอพให้ใช้ครับ แต่ก็ตามประสามือถือโลกที่สาม มีแอพ แต่มีไม่ครบฟีเจอร์ เช่นใน Line ไม่มี เกม (นับเป็นข้อดี) มีสติกเกอร์สโตร์ก็เหมือนไม่มี เพราะ สติกเกอร์ที่ขายบนสโตร์ ก็มีเฉพาะที่มีในเครื่องอยู่แล้ว (นี่มันบั๊กชัด ๆ !!!) แต่ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย เช่น Line Call ก็ทำงานได้ดีครับ ก็ถือว่าใช้งานได้ดี สรุปว่า มีใช้ในระดับถูไถ จนถึงดีครับ
  • Office: คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมี MS Office อยู่ ใช้งานได้ดี ครบเครื่อง แฮปปี้ มีความสุข
  • Cloud Storage: ไม่มี Native Dropbox/GDrive Client ครับ จบข่าว ย้ายค่ายสถานเดียว ตอนนี้ก็เริ่มย้ายไป OneDrive บ้าง แต่บางครั้งก็ต้องแชร์งานกับคนอื่นผ่าน Dropbox/GDrive ก็ใช้ Web Client  ไป ก็พอถูไถ
  • Note: ผมใช้ Evernote อยู่ ซึ่ง Client บน WP ก็ทำงานได้ในระดับถูไถ คือฟีเจอร์จะมาช้ากว่าแพลตฟอร์มอื่นมาก แถม Sync ช้าอีกต่างหาก แต่การใช้งานโดยรวมก็นิ่งดีครับ และเนื่องจากผมใช้ Email to evernote เยอะมาก ซึ่ง OneNote ยังทำได้ไม่ดี ก็เลยยังไม่ย้ายไป OneNote
  • News Reader: ผมอ่านข่าวบน Pulse ซึ่ง เช่นกัน ไม่มี Native Client บน WP แต่อ่านบน Mobile Web ก็โอเคดี ก็อ่าน ๆ ไป
  • Twitter/Facebook/Instagram/Amazon/Ebay/LinkedIn/MoloMe/Skype/TuneIn Radio/Weather/Foursquare/ กลุ่มนี้เป็นแอพ Utility ที่ทำ Native Client มาค่อนข้างดีครับ ใช้งานได้ดีทุกตัว
  • ดูหนังฟังเพลง โปรแกรมฟังเพลงบน WP ก็ใช้งานได้พอถูไถ การ Sync ผมใช้ Windows Media Player ทำ Playlist แล้ว Sync เข้ามาก็โอเคดี จะมีปัญหาแค่ Youtube ที่ไม่มี Native Client อีกแล้ว แต่ Mobile Web ก็พอถูไถ
  • Endomondo ผมใช้ Endonmodo track การออกกำลังการอยู่ (ไม่มี Nike+ นะ) ซึ่งแอพตัวนี้เก่ามาก ขาดฟีเจอร์ที่มีบนแอพอื่นไปเยอะ สรุปว่า ก็พอถูไถอีกแล้ว
  • ผมไม่เล่นเกมบนมือถือครับ ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน

สรุปว่าแอพบางส่วนก็ใช้งานได้ดีครับ อันที่ไม่ดีก็พอถูไถ หรือถ้าไม่มี Native Client ก็ใช้ Mobile Web ก็พอถูไถเช่นกัน โดยรวม ๆ ถือว่าผ่านครับ ไม่รู้สึกว่าขาดอะไร

 

 

 

 

Office 365 University

Posted on Sunday, September 15th, 2013 at 9:27 am

หลังจากใช้ iPad เป็นเครื่องหลัก พกไปทำงานอยู่สักพักก็พบว่า มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ด้วยสามเหตุผลคือ 1. Microsoft Word 2. Microsoft Excel 3. Microsoft Powerpoint นั่นคือชีวิตของผมได้เปลี่ยนมาเป็น Document Engineer ในภาคกลางวันอย่างเต็มตัวแล้ว T_T และ iPad ก็ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ เช่น เขียนโปรแกรมไม่ได้ เป็นต้น จึงถึงเวลาต้องเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นแทน โดยผมมี Criteria ดังนี้

  1. แบตอึด อย่างน้อยต้องได้เกิดหนึ่งวันแบบสบาย ๆ เนื่องจากพอใช้ iPad ซึ่งแบตอึดมาก ใช้ได้เกิน 1-2 วันแน่ ๆ ซึ่งก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพแน่นนอน เพราะพวก Core i3/5/7 อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งวันแน่ ๆ
  2. ต่อ 3G ได้ อันนี้ก็มาจาก iPad เช่นกัน ทำให้เสียนิสัย ต้องต่อเน็ตตลอดเวลา
  3. ใช้งาน Microsoft Office ได้ ซึ่งก็หมายความว่า ต้องเป็น Windows ถึงแม้ว่าจะมี Libre/OpenOffice ให้ใช้บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่ถ้าต้องทำงานเอกสารเยอะ ๆ ร่วมกับพวก Microsoft Office แล้ว จะพบว่าปวดหัวมาก จึงยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก
  4. เป็น Tablet ได้ สามารถเอาไปใช้บนโซฟาได้

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของการถอย Acer W511 มาใช้ พร้อมกับ Windows 8 ซึ่งตัวนี้ ใช้งานได้ตามข้อ 1, 2, 4 ด้านบนแบบสบาย ๆ

ส่วนข้อ 3 นั้น ก็มีอยู่สองสามทางเลือกคือ 1. ใช้ของเถื่อน 2. ซื้อ Office แบบกล่อง 3. ซื้อ Office 365 เมื่อลองเช็คดูแล้ว Office 365 นั้น ผมสามารถซื้อแบบ Office 365 University ซึ่งสนนราคาก็คือ 2,199 บาท สำหรับสี่ปี ความหมายก็คือ ผมไม่ได้ซื้อ Office ขาดแบบซื้อกล่อง แต่ซื้อแบบ Subscription ซึ่งถ้าหมดสี่ปี ผมก็ต้องจ่ายอีกรอบ

หลายคนอาจจะไม่ชอบรูปแบบนี้ เพราะว่าไม่ได้ซื้อขาด แล้วต้องเสียเงินเรื่อย ๆ แต่ในอีกแง่หนึ่ง การซื้อแบบ Subscription ก็มีข้อดีคือ ถ้า Microsoft ออก Office รุ่นใหม่ ผมก็จะได้ใช้รุ่นใหม่น้นทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ และจากประวัติ จะเห็นว่า Microsoft ได้ออกรุ่นใหม่ดังนี้ 2001 -> 2003 ->2007 -> 2010 -> 2013 ซึ่งถ้าดูแบบนี้ ผมน่าจะได้ใช้รุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง น่าจะไม่ 2015 ก็ 2016 และถ้ามาคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว 2,200 บาท ใช้ได้สองเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Windows หรือ Mac และใช้ได้ 4 ปี ก็คือถ่าโคตรคุ้มนะครับ คุ้มกว่าโปรแกรมเถื่อนอีก เพราะว่าได้ Update อัตโนมัติตลอดเวลา ได้ Skydrive เพิ่ม ได้ Skype minute อีกนิดหน่อย

พอใช้งานไป ก็พบว่ามันคือ Office 2013 ที่ทำ Integrate เพิ่มกับ Skydrive ซึ่งก็สะดวกมาก สำหรับคนที่ใช้คอมพ์หลายเครื่อง และถ้าใช้ Windows Phone ก็จะยิ่งสะดวกไปใหญ่ ตัว Office ก็ทำงานได้ดีตามที่ควรจะทำงานได้ ยิ่ง ๆ หลัง ๆ ใช้ Word, Office, Excel ทุกวัน ก็ยิ่งเห็นว่า มันดีกว่าไปนั่งทำบน Google Docs เยอะ เพราะถึงแม้เน็ตจะล่ม ก็ยังทำงานได้

สรุปว่า คุ้มครับ

หนึ่งเดือนกับ Nokia Lumia 720

Posted on Sunday, September 1st, 2013 at 7:12 pm

หลังจากเปลี่ยนจาก galaxy note 1 มาเป็น Nokia Lumia 720 ได้สักเดือนหนึ่ง ก็ได้เวลามาบันทึกประสบการณ์การเปลี่ยน platform (ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ก็ขอสรุปมาเป็นข้อ ๆ ละกัน

  1. การตอบสนองดีกว่า android มาก ถึงแม้ว่าจะเป็นโทรศัพท์ที่ spec ค่อนข้างต่ำ มี ram แค่ 512m เวลาเปลี่ยน app ไปมาก็จะมีจังหวะที่ต้องรอ resume บ้าง แต่ความเจ๋งของ wp8 คือ เราสามารถคาดเดาได้ว่า จะต้องรอ resume นานแค่ไหน เช่น ไม่เกินสามอึดใจ ก็จะไม่เกินนั่นจริงๆ และ app หลักแบบ Caller ก็จะโผล่มาเสมอเมื่อเรียกใช้ เมื่อเทียบ android ซึ่ง spec ดีกว่า แต่มีอาการค้างกลางอากาศแบบคาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ แม้แต่กับ app หลัก แบบ Caller และก็ไม่เกี่ยวกับจำนวน app ที่ติดตั้งด้วย เพราะถึงแม้จะ flash ROM ใหม่ ไม่ลงโปรแกรมอะไรเพิ่มเลย ก็ค้างได้เหมือนกัน เฉพาะข้อนี้ข้อเดียว ก็ทำให้ประสบการณ์การใช้งานบน wp8 เป็นสุขกว่าไหนๆ
  2. การออกแบบ UI ที่ง่ายและคาดเดาได้ เช่น ปุ่ม Back ก็จะ Back เสมอ รวมถึงการออกแบบให้เป็น tab-based interface ที่ใช้การปัดซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนหน้า ทำให้การใช้งานไม่ต้องเดา หรือจำว่าโปรแกรมนี้ใช้งานอย่างไร
  3. แบตอึดมาก ตอนสมัยใช้ Note 1 ถ้าใช้หนัก ๆ เช่น เปิดหน้าจอทำงานตลอด แบตจะอยู่ได้ครึ่งวันเป็นอย่างมาก และถึงแม้จะแทบไม่ได้ใช้เลย แบตก็อยู่ได้ไม่ถึงเย็น ดังนั้น ต้องพก power bank ติดตัวเสมอ และต้องหาที่ชาร์จแบตไปทิ้งไว้ตามที่ต่าง ๆ เทียบกับ Nokia Lumia 720 ซึ่งแบตใช้งานหนักอย่างไร ก็อยู่ได้เต็มวัน ยิ่งถ้าวันไหนใช้ไม่เยอะ จะอยู่ได้ข้ามวันด้วยซ้ำ ดังนั้น power bank ก็เลิกใช้ไปเลย ส่วนที่ชาร์จ ก็มีไว้ที่บ้าน เอาไว้ชาร์จตอนก่อนนอนก็พอ
  4. กล้องที่ไว้ใจได้ และถ่ายได้ไว ที่ว่าไว้ใจได้คือ พอกดปุ่ม shutter ที่สันเครื่อง โปรแกรมกล้องจะขึ้นมาพร้อมถ่ายภายใน 1-2 อึดใจ ในขณะที่สมัยใช้ Note1 พอเรียกกล้อง ก็ต้องลุ้นว่ามันจะขึ้นมาไหม บางทีภาพจากกล้องมาแล้ว แต่พวก control ต่าง ๆ ไม่ยอมขึ้น ก็กดถ่ายไม่ได้อยู่ดี น่าช้ำใจนัก ภาพที่ได้จากกล้องของ Nokia ส่วนใหญ่ (90%) อยู่ในขี้นดี ใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องแต่งอะไร
  5. โปรแกรมต่าง ๆ มีพอใช้งาน ปกติผมไม่เล่นเกมในมือถืออยู่แล้ว (หลัง ๆ แทบไม่ได้เล่นเกมเลย T_T ไม่ว่าที่ไหน) พวกโปรแกรมใช้งานต่าง ๆ เช่น Evernote, Mail, Calendar, GChat, Office ก็มีให้ใช้หมด เลยไม่มีปัญหาอะไร พวกไฟล์ต่าง ๆ ก็ย้ายมาอยู่บน Skydrive ก็หมดปัญหาแล้ว โปรแกรม Mail ใช้งานได้ดี และใช้ง่าย โดยเฉพาะ Linked inbox ที่ทำให้เช็คเมลหลาย Account จากหน้าเดียวได้เลย การอ่านเมล ลบเมล จัดการเมล ก็สะดวกดี แต่โปรแกรม Calendar อยู่ในขั้นแย่ หน้า Month View ไม่รู้จะมีไว้ทำไม เพราะใช้งานอะไรไม่ได้เลย หน้า Week View ก็ไม่มี ทำให้เวลาจะหาเวลาว่าง เวลาเดียวกันติดกันหลายวัน ต้องเลื่อนหน้า Day View ไปมา แล้วจำเอาเอง ไว้ว่าง ๆ ค่อยหาโปรแกรม Calendar ดี ๆ มาใช้ พวก Social network ต่าง ๆ ก็ใช้งานได้ครบดี
  6. Hub ทั้งหลาย ก็ใช้งานได้จริง อย่าง Friend Hub กดเข้าไปดู ก็เห็น update ของเพื่อนทั้งหมด เป็นต้น
  7. WP8 เอง ก็ใช้งานได้ดี ฟีเจอร์บางตัวก็ยังมาไม่ครบ (เช่น ปิดโปรแกรมจากหน้า task list ไม่ได้ ต้องกด Back รัว ๆ เอา) แต่นอกนั้น ก็ถือว่าเป็น OS ที่ใช้งานง่าย และเสถียรดี ก็รอ GDR2/3 กันไป
  8. ตัวเครื่อง ออกแบบได้ดีและดูทนตามมาตรฐาน Nokia โดยส่วนตัว ชอบ Nokia N9 มาก สาเหตุหนึ่งที่เลือกตัวนี้ ไม่เอา 920 ก็เพราะการออกแบบตัวเครื่องในทรงเดียวกับ N9 นี่แหละ
  9. ปัญหาหลัก ๆ ที่เจอคือ Notification แบ่งเป็นสองกรณีคือ อันแรก Notification มาซ้ำ ๆ จะเป็นปัญหาของ FB โดยจะมาช้ามาก (เช่นข้ามอาทิตย์) และมาซ้ำ ๆ เหมือนฝั่ง Server ยังไม่รู้ว่า Client ได้รับแล้ว ก็ยิงมาซ้ำ ๆ อีก ส่วนอีกปัญหาหนึ่งจะเป็นของ Line กับ GChat บางที คือ เห็นว่ามี Notification มาแล้ว แต่พอไปเปิดไป App เอง กลับไม่เห็นข้อความใหม่ คาดว่าเป็นปัญหาของตัว App ที่ไม่ยอมไป query Server ตัวเองเอาข้อมูลมาใหม่ ต้องปิดโปรแกรมทิ้งแล้วเปิดใหม่ ถึงจะเห็นข้อความ

สรุป ชอบมากคือ แบต ตัวเครื่อง กล้อง ความลื่น แอพหลักของโทรศัพท์ โดยรวม ๆ แล้ว ก็ค่อนข้างพอใจ และคิดว่ตัดสินใจถูกแล้ว ที่ย้ายมาจาก Android