Archive for the Uncategorized Category
hot
Posted on Sunday, July 30th, 2006 at 12:06 pmYoSeMiTe
Posted on Wednesday, July 26th, 2006 at 6:35 amSanFrancisco
Posted on Tuesday, July 25th, 2006 at 11:53 amPosted on Sunday, March 19th, 2006 at 3:09 pm
มีคนบอกว่าในบล๊อคนี้ ผมเหมือนตาแก่ขี้บ่น มองโลกในแง่ร้าย หดหู่ไปวัน ๆ
กลับไปอ่าน ก็ท่าทางจะจริง
เอาไว้จะพยายามจะบ่นให้น้อยลงนะครับ 😉
Come away with me
And I will write you a song ….
ท่าทางไอบุ๊คจะไปไม่ไหวแล้ว หลังจากที่ฮาร์ดดิสค์ในเครื่องเสีย ก็เลยเอาไอพอดมาต่อ แล้วใช้เป็นฮาร์ดดิสค์แทนมาหลายอาทิตย์ ตอนนี้ฮาร์ดดิสค์ในเครื่องเริ่มโวยวายเสียงดังจนทนไม่ไหว สงสัยต้องเอาไปซ่อมสักที ไม่รู้ว่ากี่วันจะเสร็จ -_- เวลาไม่มี เครื่องใช้นี่มันลำบากจริง ๆ จะ save งานหรือว่าทำอะไร ก็ทำได้ไม่สนิทใจ เพราะขี้เีกียจย้ายไปมา
ว่าจะไม่บ่นแล้วเชียว
Come away with me
And I’ll never stop loving you ….
ตอนบ่าย ๆ เบื่อ ๆ ก็เลยเปิดทีวีขึ้นมาดู กำลังฉายเรื่อง Space Cowboy จำได้ว่าดูแล้วชอบ ก็เลยนั่งดูซะเลย จริง ๆ กะจะรอดูตอนจบ เพราะชอบตอนจบมาก ไม่ใช่ตอนที่ตาคลิ้นท์พยายามจะเอายานลงจอด แต่เป็นตอนที่ค่อย ๆ ฉายไปที่ดวงจันทร์ แล้วเพลง Fly me to the moon ค่อย ๆ ดังขึ้นมา ดูทีไรแล้วน้ำตาซึมทุกที
สงสัียจะยังอยากไปดวงจันทร์อยู่แน่เลย…
Fly me to the moon
Let me sing among those stars
Let me see what spring is like
On jupiter and mars
In other words, hold my hand
In other words, baby kiss me
Fill my heart with song
Let me sing for ever more
You are all I long for
All I worship and adore
In other words, please be true
In other words, I love you
Posted on Thursday, March 16th, 2006 at 3:51 pm
I’m an old world programmer. I mean that I still use Vim and Makefile to do my work. So, IDE is out of question, the last IDE I prefer to use is…. Turbo C. What’s wrong with IDE ? I think that by using IDE, we’ve been distracted from the content of the program, to the presentation, organization, or something else. For me, writing a program is like praying, you don’t need to wear an expensive cloths or be in a big church. What you need to do is bending your knee down and starting praying. Likewise, to writing program, what you’ve to do is sitting down, hover your hand over a keyboard, and start typing. Moreover, writing program is more like communication with computer, and myself, deeply. It’s like I discuss with the computer what should we do to solve problems in program, not order him. In the same time, I talk with myself what is the condition of my soul at that time. It’s more like a praying that we investigate our mind and clean it up when we found that we found some unacceptable dirtiness.
Sometime, I cried when I wrote a program, not because of unsolvable bug but because I found the similarity of my life within the program that I’m writing. Isn’t our life has a BEGIN and an END ? Isn’t it full of condition and loop ? Isn’t it full of bug and glitch ?
I’m not writing program to order computer, I’m sharing my life with my old friend.
Posted on Thursday, March 2nd, 2006 at 11:36 am
My iBook has problem with startup, I think that the harddisk is defected. The worse is, the file system was corrupted, so I lost everything. Anyway, I’ve backup for my data,
============================
Three rules of computer usage for students
1) backup
2) backup
3) backup
============================
Anyway, I’ve to reinstall OS X and everything, and you know what, it corrupted again T_T . So I’ve to reinstaill everything again. I’d bring her to Apple Center but I don’t have time and I have to use her, I mean, I can’t leave her at Apple Center for a couple days because I’ve a couple papers to be finished.
Anyway, sorry for going so far, my point is, after installing OS X for two consecutive times, I started to be lazy to install every software I need. At the end, you know, I install only two pieces of software!!! guess what are they, adium x and microsoft office. For the rest of software requirement, I use OS X pre-installed software.
This comes to my thought, what we need for living, I mean, fundamentally. Beside house, food, medicine, and cloths. What else do we need ? Computer ? certainly not. Book ? may be, may be not.
I think that we’ve to separate between what we need and what we want. Generally, I think that we’ll have only a short list of what we need, but very long list of what we want. So, why don’t we try to switch to live with what we need, not what we want. Life may be easier.
Anyway, what is the need in our life ?
love ?
what is the need in your life?
Posted on Sunday, January 15th, 2006 at 2:59 pm
คืนนี้ฝนตก…..
เมื่อเราเติบโตขึ้น เราต่างก็เรียนรู้ว่า ชีวิตเต็มไปด้วยทางเลือก ในวัยเด็ก เราอาจจะเลือกได้ที่จะไม่กินผัก ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่า ไม่อยากกิน
แต่เมื่อเราเติบใหญ่ขึ้น ได้เรียนรู้สึ่งต่าง ๆ มากมาย เราก็มักจะพบว่า เหตุผลง่าย ๆ เช่นนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป คนส่วนใหญ่จึงบังคับให้ตัวเองต้องกินผัก ด้วยเหตุผลที่ซับซ้อนและทำความเข้าใจยากเช่น ร่างกายต้องการสารอาหารจากผัก ดังนั้นเราจึงต้องกินมันเข้าไป
แม้ว่าเราจะไม่อยากกินเท่าไหร่ก็ตาม แล้วเมื่อกินไปบ่อยครั้งขึ้น เราก็จะเริ่มชิน แล้วเราก็ไม่ต้องการเหตุผลอื่นใดอีก
คืนนี้ฝนไม่ตก…..
เมื่อเราได้ก้าวผ่านทางเลือกง่าย ๆ เช่นการกินผัก หรือไม่กินผักมาแล้ว เราก็มักจะเจอทางเลือกที่ยากขึ้นไปอีก ยากจนบางครั้งเราไม่อยากจะเลือกทั้งสองทาง หรือว่าอยากจะเลือกทั้งสองทาง แต่เราก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็เหมือนกับ computer logic ที่ไม่เป็น true ก็ต้องเป็น false
คืนนี้ฝนตก คืนนี้ฝนไม่ตก…
แต่ถ้าเราทำความเข้าใจกับเรื่องรอบ ๆ ตัว เรื่องง่าย ๆ เช่น คืนนี้ฝนตก หรือว่า คืนนี้ฝนไม่ตกแล้ว เราก็จะตระหนักว่า ชีวิตมันก็เป็นเช่นนั้นเอง ถ้าคืนนี้ฝนตก ก็แสดงว่ามันไม่ใช่คืนที่ฝนไม่ตก แต่ถ้าคืนนี้ไม่ใช่คืนที่ฝนไม่ตก ก็แสดงว่ามันเป็นคืนที่ฝนตก
ชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ไม่สุข ก็ทุกข์ ไม่ดีใจ ก็เสียใจ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์และยังต้องตกอยู่ในห้วงของกรรม
แล้วถ้าใครบางคนเลือกที่จะไม่อยู่ เขาก็แค่เลือกที่จะไป
แค่นั้นเอง…..
คืนนี้ฝนตกครับ 🙂
Posted on Sunday, January 8th, 2006 at 2:12 pm
(รูปจาก Wikipedia)
ผมจำไม่ได้ว่าดูหนังเรื่อง The Shawshank Redemption มากี่รอบแล้ว แม้แต่ใน iPod ของผม ก็ต้องมีหนังเรื่องนี้ (กับ Il Mare) เก็บเอาไว้ บางที ในยามฉุกเฉิน เวลาที่ผมต้องการกำลังใจ ผมก็จะเสียบ iPod เข้า iBook ด้วยมือสั่น ๆ แล้วรีบเปิดโปรแกรมเล่นหนังเพื่อดูหนังเรื่องนี้อีกสักรอบ
คนเราย่อมมีเวลาที่จะล้มลง อ่อนแอ และ ร้องให้ แต่เราก็ต้องหาทางที่จะลุกขึ้นยืน เข้มแข็ง และ เช็ดน้ำตา
การล้ม อาจจะเป็นเหมือนคำเตือนที่บอกเราว่า เราไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิด
อ่อนแอ อาจจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ถึงความเป็นมนุษย์ของเรา มนุษย์ที่ไม่ว่าจะถูกฝึกให้เข้มแข็งแค่ไหน สมองและหัวใจ ก็ยังเป็นสิ่งที่บอบบาง
น้ำตาละ น้ำตาอาจจะช่วยชะล้างความทรงจำเก่า ๆ ให้หายไป หรืออาจจะเป็นเหมือนน้ำที่ราดรดลงไป ให้ความทรงจำเหล่านั้นฝั่งรากลึกมากขึ้น
แต่ไม่่ว่ามันจะมีความหมายอะไร เราก็ต้องหาทางที่จะลุกขึ้นยืน เข็มแข็ง และ เช็ดน้ำตา
ทุกครั้งที่ผมรู้สึกอ่อนแอ ผมจะเปิดหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดู มันไม่ได้ทำให้ผมเข็มแข็งขึ้น หรือทำให้ผมลุกขึ้นยืนได้ แต่ทำให้ความเจ็บปวด ความล้มเหลว ความว้าเหว่ มันไม่รุนแรงมากเกินไป อย่างน้อย ผมก็รับรู้ว่า ในโลกนี้ ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว ที่พยายามลุกขึ้นยืนทุกครั้งที่ล้มลง
แม้ว่าอีกไม่นาน ก็ต้องล้มลงอีกก็ตาม