Posted on Monday, March 19th, 2007 at 4:18 am
Bette Midler – Wind Beneath My Wings
It must have been cold there in my shadow, to never have sunlight on your face. You were content to let me shine, that’s your way, you always walked a step behind.
So I was the one with all the glory, while you were the one with all the strength. A beautiful face without a name — for so long, a beautiful smile to hide the pain.
CHORUS: Did you ever know that you’re my hero, and ev’rything I would like to be? I can fly higher than an eagle, ’cause you are the wind beneath my wings.
It might have appeared to go unnoticed, but I’ve got it all here in my heart. I want you to know I know the truth, of course I know it, I would be nothing with out you.
(CHORUS)
Fly, fly, fly away, you let me fly so high. Oh, fly, fly, so high against the sky, so high I almost touch the sky. Thank you, thank you, thank God for you, the wind beneath my wings.
Posted in Uncategorized |
Posted on Sunday, March 18th, 2007 at 12:10 pm
ชน: วงตาวัน/ชุด 12 ราศี
อยู่ตรงนี้ สนไหม คนไม่กลัวฟ้า หอบความรักร้อนๆ มาให้เธอ เก็บซ่อนไว้ ลึกล้ำเกินจะค้นเจอ แต่กับตัวเธอยกมาหมดใจ ไม่มีลิ้น หวานล้ำ คำก็ไม่ซึ้ง แต่ใจถึง รักแท้ ทำแต่งาน จะเอาไหม รักฉัน เธออย่าคิดนาน ไม่มีเวลา เฝ้ารออยู่นาน เหลืองานต้องทำ ทำเงินทำงาน ชนมันเข้าไป มีเงินมีทอง แล้วคงอุ่นใจ เธอยอมตกลง เราคงสบาย เผื่อเธอมีท้อง มีลูก มีหลาน ไม่พากันอดตาย
ราศีพฤษภ : ตามตำรากล่าวว่า ชาวพฤษภ มีความมานะพยายามเป็นเลิศ สู้งานและอดทนสูง ไม่ต่างจากวัวที่พุ่งชนเข้าใส่เป้าหมาย รักใครย่อมรักจริง
Which song is yours?
Posted in Uncategorized |
Posted on Saturday, March 17th, 2007 at 11:32 am
Posted in Uncategorized |
Posted on Tuesday, March 13th, 2007 at 1:25 pm
To dream the impossible dream To fight the unbeatable foe To bear with unbearable sorrow To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong To love pure and chaste from afar To try when your arms are too weary To reach the unreachable star
This is my quest To follow that star No matter how hopeless No matter how far
To fight for the right Without question or pause To be willing to march into Hell For a heavenly cause
And I know if I’ll only be true To this glorious quest That my heart will lie peaceful and calm When I’m laid to my rest
And the world will be better for this That one man, scorned and covered with scars Still strove with his last ounce of courage To reach the unreachable star
Posted in Uncategorized |
Posted on Monday, March 12th, 2007 at 1:39 am
Posted in Uncategorized |
Posted on Saturday, March 3rd, 2007 at 4:04 am
From h ttp://xkcd.com/c162.html
เธอทำอะไรอยู่?
หมุนรอบตัวเองทวนเข็มนาฬิกา
ทุกๆรอบจะทำให้โมเมนตัมเชิงมุม ของโลกลดลง
ซึ่งก็จะทำให้โลกหมุนช้าลงทีละนิด ๆ ….
ทำให้ฉันมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกนิด ที่จะได้อยู่กับเธอ
Posted in Uncategorized |
Posted on Thursday, March 1st, 2007 at 9:39 am
1. อาหารคาว เป็นคนเมืองก็ต้องชอบกิน”ขนมเส้น”หรือว่าขนมจีนนั่นเอง แต่ถ้าถามว่าน้ำอะไร ก็คงสองจิตสองใจระหว่างน้ำเงี้ยว กับ น้ำยา แต่สุดท้าย ก็คงให้น้ำเงี้ยวชนะขาด โดยเฉพาะขนมเส้นน้ำเงี้ยวกาดหลวง ที่ขายตอนกลางคืน
พูดถึงขนมเส้นก็ทำให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ ตอนประถมผมเรียนโรงเรียนวัด ที่โรงเรียนจะให้เด็กป.6 ผลัดกันมาทำกับข้าวเลี้ยงเด็กในโรงเรียน (จะได้ไม่ต้องจ้างแม่ครัว กับคนล้างจาน) ซึ่งอาหารที่ทำบ่อยมากก็คือขนมจีน เพราะว่ามันทำง่าย และต้นทุนต่ำ เวลากิน ก็จะตักขนมจีนหนึ่งจาน แล้วก็ถั่วงอกอีกหนึ่งจาน อิ่มสบายท้องไปทั้งวัน
2. อาหารหวาน ปกติผมเป็นคนที่ไม่ชอบทานขนมหวาน โดยเฉพาะพวกเค้ก (แต่ทำคุกกี้เก่ง :P) แต่ถ้าเป็นขนมไทยแล้วละก็ ทำเป็นหลายอย่าง และชอบทานหลายอย่างเหมือนกัน แต่ที่ชอบมากที่สุด ก็คงเป็นขนมกล้วยครับ เป็นขนมที่ทำง่าย กินง่าย อิ่มท้อง ตอนเด็ก ๆ กินบ่อย เพราะว่ามันถูก
Posted in Uncategorized |
Posted on Thursday, February 15th, 2007 at 11:45 am
จากคนน ให้บอกชื่อ “หนังเอเชีย” ที่ชื่นชอบ มาทั้งหมด 4 เรื่อง พร้อมฉากที่ประทับใจที่สุดในหนัง
1. Il mare (เกาหลี, 2543) ความประทับใจ: ความเหงาที่ล่องลอยไปตามเสียงเพลงเบา ๆ ภาพที่สวยงามเหมือนความฝัน แต่ก็ว่างเปล่าและเยือกเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่มีเพียงเวลาเป็นกำแพงกั้น
ฉากประทับใจ: “มีสามสิ่งที่ยิ่งเราพยายามปิดบัง มันก็ยิ่งเห็นได้ชัด นั่นคือ ความยากจน การไอ และความรัก”
2. กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ (ไทย, พศ. 2537) ความประทับใจ: เมื่อเด็กตื่นขึ้นมาจากจินตนาการแล้วพบว่าโลกนี้ไม่ได้สวยงามเหมือนในเทพนิยาย หนังที่พูดถึงปัญหาสังคมได้อย่างน่ารักและจริงจัง บอกเล่าเรื่องราวความฝันอันสวยงามของเด็ก ๆ ผ่านโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้าย ฝีมือการกำกับของคุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่ทำได้ในระดับเดียวกับ Stand By Me และดีกว่าหนังในรุ่นเดียวกันที่เล่าเรื่องราวคล้าย ๆ กันอย่างปุกปุย หรือว่า เวลาในขวดแก้ว
ฉากประทับใจ: พ่อ: “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพากันหนีออกจากบ้าน แอบเข้าไปเที่ยวเล่นในสวนของปราสาท โดยไม่รู้ว่าในปราสาทมีแม่มดใจร้ายครอบครองอยู่ เด็กๆ ถูกนางแม่มดใจร้ายสาปให้เป็นสัตว์ต่างๆ พอดีเจ้าชายเดินทางผ่านมา เห็นพวกเด็กๆ ที่ถูกสาปก็สงสาร จึงใช้ดาบวิเศษพยายามช่วยให้เด็กๆ พ้นจากคำสาปของแม่มด นางแม่มดใจร้ายไม่ยอมแพ้ เสกยักษ์ตาเดียวขึ้นมาจากหลุมตรงเข้าต่อสู้กับเจ้าชายอย่างดุเดือด…”
3. ผีเสื้อและดอกไม้ (ไทย, 2528) ความประทับใจ: ตอนที่เป็นหนังสือ ก็เป็นหนึ่งในหนังสือที่รักมาก เป็นหนังสือเด็กที่อ่านแล้ว ไม่รู้สึกว่าเด็กในเรื่องถูกผู้ใหญ่เอาคำพูดยัดปาก หรือว่าเอาความคิดยัดเข้าไปในสมอง (เหมือนหนังสือซีไรท์ปีล่าสุด…..) พอเอามาทำเป็นหนัง คุณยุทธนา มุกดาสนิทก็ทำออกมาได้เหมือนกับว่าฮูยัน และ มิมปีเดินออกมาจากหนังสือเพื่อเล่าเรื่องราวของพวกเขา เด็กจากดินแดนชายขอบ ที่น้อยคนจะสนใจ
ฉากประทับใจ: “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” “อยากเป็นคนดี”
4. The road home (จีน, 2542) ความประทับใจ: จางซิยี่มัดผมเปียวิ่งแก้มแดงไปมากลางหิมะ ความรักที่สิ้นสุดลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เมืองเล็กๆ ที่เหมือนไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยคำมั่นสัญญา
ฉากประทับใจ: “ฉันจะรอคุณอยู่ตรงนี้”
Posted in Uncategorized |
Posted on Wednesday, February 14th, 2007 at 1:12 pm
Posted in Uncategorized |
Posted on Wednesday, February 14th, 2007 at 11:57 am
ความสุขพัดผ่านเข้ามาเพียงชั่วคราว แล้วก็ผ่านเลยไป เหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำที่เป็นเหมือนกลิ่นหอม ที่ทำได้แต่เพียงแค่สูดดม แต่สัมผัสไม่ได้ ที่เป็นจริงเพียงแค่ในความฝัน แต่เป็นความว่างเปล่าเมื่อลืมตา
ความทุกข์กลับหยั่งรากลึกเข้าในจิตใจและความทรงจำ ทุกวินาที ดูดซึมเอารอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ระเหยออกเป็นไอพัดผ่านไปตามกระแสลมของกาลเวลา เหลือไว้เพียงรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เหมือนพื้นดินขาดน้ำชั่วกาล
ความทรงจำเป็นเหมือนดั่งเหล้าไวน์ ที่ยิ่งนานยิ่งเข้มข้น กลิ่นของมันทำให้เราหวนระลึกถึงสิ่งดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จิบแรกเตือนให้เราระลึกถึงความขมขื่นฝาดฝืนของน้ำตา และในตอนเช้า เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ความปวดร้าวของจิตใจ
นอกหน้าต่างหิมะปลิดปลิวไปตามสายลมไร้ทิศทาง ชีิวิตมนุษย์ก็เป็นดั่งเช่นเกล็ดหิมะ เกิดขึ้นในชั่วพริบตา แล้วล่องลอยไร้จุดหมายไปตามสายลมแห่งกาลเวลา ก่อนที่จะละลายเหลือเพียงหยดน้ำหยดเล็กคล้ายหยาดน้ำตา
Posted in Uncategorized |